สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต
1/1 ถนนมนตรี ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
โทรศัพท์ : 076-212-017 Email : pu_ops@moc.go.th
บรรยายสรุปจังหวัดภูเก็ต
---------------------------
ประวัติจังหวัดภูเก็ต
" ภูเก็ต " ได้มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีที่บ้านกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ขุดพบเครื่องมือหินและขวานหินเป็นการแสดงให้ทราบว่ามี มนุษย์อาศัยในดินแดนแถบนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี มาแล้วและได้มีหลักฐานการ กล่าวถึงดินแดนในแถบนี้อีกครั้ง เมื่อปี พ .ศ. 700 หรือ คริสต์ศตวรรษที่ 2 ในบันทึกของนักเดินเรือ ชื่อ คลอดิอุส ปโตเลมี กล่าวถึงผืนดินหรือแผ่นดินในส่วนนี้ว่า แหลมตะโกลา เป็นผืนดินที่ถูกดันออกมาทางใต้กลายเป็นแหลมยาวๆ อยู่ส่วนปลายสุดของจังหวัดพังงา อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อน ของเปลือกโลกขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า รอยเลื่อนคลองมารุย (Klong Marui Fault) ซึ่งวางตัวเป็นแนวยาวจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีและพังงา ลงมาทางทิศตะวันออกของภูเก็ต ต่อมาได้ถูกคลื่นลมในทะเลกัดเซาะ และตัดพื้นที่ดังกล่าวนี้ ออกจากผืนแผ่นดินใหญ่ จนกลายเป็นเกาะโดยเกิดร่องน้ำระหว่างจังหวัดภูเก็ตและพังงาขึ้น ที่เรียกว่า ช่องแคบปากพระ (เป็นร่องน้ำแคบ ๆ โดยส่วนที่ลึกที่สุดลึกเพียง 8-9 เมตร ) ในปัจจุบัน
สำหรับการเรียกขานภูเก็ตของชาวต่างประเทศ ในอดีตนอกจากจะมีปรากฎในบันทึก เมื่อปี พ .ศ. 700 ของนักเดินเรือ คลอดิอุส ปโตเลมี ที่เรียกผืนดินในบริเวณนี้ว่า แหลมตะโกลา แล้ว ได้มีปรากฎหลักฐานการกล่าวถึง ผืนดินในบริเวณนี้อีกครั้ง จากบันทึก และแผนที่การเดินเรือมาเอเชียตะวันออก ของชาติยุโรป ระหว่าง พ.ศ. 2054-2397 เรียกผืนดินนี้ว่า จังซีลอน นอกจากนี้ ได้มีหลักฐานเกี่ยวกับการเรียกขาน ผืนดินนี้ของชาวทมิฬ์ในปี พ.ศ. 1568 ว่า มณิคราม หมายถึง เมืองแก้ว ซึ่งมีความหมายตรงกับชื่อ ภูเก็จ ที่ปรากฎในจดหมายเหตุเมืองถลาง ฉบับที่ 1 ในปี พ.ศ. 2328 และได้มีการเรียกขานเรื่อย ๆ จนกลายเป็น ภูเก็ต ซึ่งได้ปรากฎในราชกิจจานุเบกษา มาตั้งแต่ พ.ศ. 2450 เป็นต้นมา ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ชื่อของจังหวัดภูเก็ตที่ได้มีการกล่าวขานตั้งแต่ในอดีตจนกระทั่งปัจจุบันนั้น ประกอบด้วย แหลมตะโกลา มณิคราม จังซีลอน ภูเก็จ และภูเก็ต ซึ่งในบางครั้งได้มีการเรียกขานว่า สิลัน ถลาง และทุ่งคาร่วมด้วย
คำขวัญประจำจังหวัด
" ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม "
ตราประจำจังหวัด
ตราประจำจังหวัดภูเก็ตในปัจจุบันเริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2528 เป็นรูปอนุสาวรีย์สองวีรสตรี อยู่ในวงกลมล้อมด้วยลายกนก ซึ่งแสดงถึงวีรกรรมอันห้าวหาญของท้าวเทพกระษัตรี และท้าวศรีสุนทรที่ได้ปกป้องเมืองถลางให้พ้น จากการรุกรานของพม่า เมื่อปลายปีมะเส็ง พ.ศ.2328 สำหรับอักษรย่อของจังหวัดภูเก็ต ที่ ใช้ในทางราชการ คือ " ภก "
ธงประจำจังหวัด
ธงประจำจังหวัดภูเก็ตทำด้วยผ้าสีฟ้ามีขอบสีขาว ตรงกลางปักภาพวาดรูปท้าวเทพกระษัตรี และท้าวศรีสุนทร ด้านหลัง เป็นรูปภูเขาอยู่ในวงกลม
ต้นไม้ประจำจังหวัด
ต้นไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต คือ " ต้นประดู่ "
ดอกไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต
ดอกไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต คือ " ดอกเฟื่องฟ้า "
ต้นไม้มงคลพระราชทาน
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงโปรดพระราชทานกล้าไม้มงคล ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตนำไปปลูกเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต เนื่องในงานรณรงค์โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ฯ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2537
ชื่อพันธุ์ไม้ ประดู่บ้าน
ชื่อสามัญ Burmese Rosewood
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pterocarpus indicus Willd.
วงศ์ LEGUMINOSAE
ชื่ออื่น ประดู่กิ่งอ่อน สะโน อังสนา
ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่สูง 25 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาล เข้มหรือดำคล้ำ มีสะเก็ดแตกเป็นร่องตื้นๆใบเป็นใบ ประกอบแบบ ขนนก มีใบย่อย แผ่นใบรูปรี โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็น ช่อขนาดใหญ่ รูปดอกถั่ว สีเหลือง ออกดอกช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน ผล เป็นรูปโล่ มีครีบเป็น แผ่นกลม ตรงกลางนูน
ประโยชน์ : เนื้อไม้ใช้ทำสิ่งก่อสร้าง เปลือกให้น้ำฝาดสำหรับฟอกหนังและให้สีน้ำตาล สำหรับย้อมผ้า แก่นให้สีแดงคล้ำ
สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมของชาวภูเก็ตที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ที่อยู่อาศัย สถานที่ราชการ และวัดวาอาราม สำหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ต สามารถแบ่งได้เป็น สถาปัตยกรรมแบบพื้นบ้าน สถาปัตยกรรมแบบจีน และสถาปัตยกรรมแบบผสม (แบบชิโนโปรตุกิส) ซึ่งมีรายละเอียดังนี้
ลักษณะสำคัญ | วัสดุที่ใช้ ได้แก่ ไม้ไผ่ ไม้โกงกาง หวาย และจาก |
คุณสมบัติ | หาได้ง่ายจาก ท้องถิ่น |
ลักษณะสำคัญ | การตั้งเสาเรือนจะไม่ฝัง ดิน แต่จะวางหินเป็นฐาน |
คุณสมบัติ | ป้องกันการทรุด ตัว เพราะพื้นดินมีสภาพเป็นดินทราย |
ลักษณะสำคัญ | ฝาเรือนทำด้วยไม้ไผ่ขัด แตะเป็นลาย เช่น ลายลูกแก้ว ลายสองฯลฯ ไม่นิยม เจาะหน้าต่าง |
คุณสมบัติ | อากาศสามารถ ถ่ายเทได้สะดวก |
ลักษณะสำคัญ | ตัวเรือน ไม่มีระเบียง |
คุณสมบัติ | เข้ากับสภาพภูมิ อากาศ ช่วงฝนตก พื้นเรือนจะไม่ผุ |
ที่ตั้งบริเวณ | บ้านดอน บ้านเคียน บ้านไนทอน และ บ้านฉลอง |
รูปแบบ สถาปัตยกรรม : แบบจีน
ลักษณะสำคัญ | วัสดุที่ใช้ ได้แก่ ดินเผา และดินเหนียว |
คุณสมบัติ | แข็งแรง และมี ความทนทาน |
ลักษณะสำคัญ | ตัวเรือนส่วนใหญ่จะเตี้ย |
คุณสมบัติ | เหมาะกับสภาพ อากาศที่ฝนตกชุก และลมแรง |
ที่ตั้งบริเวณ | อำเภอกะทู้ |
รูปแบบ สถาปัตยกรรม : แบบผสม ( แบบชิโนโปรตุกิส )
ลักษณะสำคัญ | ตัวตึกมีลักษณะผสม แบบยุโรป และเอเชีย ( จีน ) |
คุณสมบัติ | อาคารไม่ร้อนอบ อ้าว มีแสงสว่าง ตามธรรมชาติ |
ลักษณะสำคัญ | มีทางเดินใต้ตึกเชื่อมต่อ กันระหว่างแต่ละตึก เรียกว่า อาเขต |
คุณสมบัติ | ช่วงฝนตกสามารถ เดินได้โดยไม่เปียก |
ที่ตั้งบริเวณ | บริเวณตัวเมือง ภูเก็ต ได้แก่ ถนน ถลาง ถนนรัษฎา ถนนเยาวราช ฯลฯ |